Saturday, February 24, 2007

การอนุรักษ์เต่าทะเลตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

การอนุรักษ์เต่าทะเลตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
ในเรื่องของการอนุรักษ์เต่าทะเล ปัจจุบันทางราชการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นกรมประมง กรมป่าไม้ และกองทัพเรือ โดยเฉพาะเกาะมันใน จังหวัดระยอง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกรรมสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อสร้างเป็นศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล และได้พระราชทานชื่อว่า "โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล" อยู่ในความดูแลของกรมประมง ซึ่งได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา สถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเล แหลมพันวา ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ได้มีการเลี้ยงและเพาะพันธุ์ไข่เต่าทะเลขึ้นดำเนินการศึกษาชีววิทยาและติดตามดูการดำรงชีวิตและพฤติกรรมของเต่าทะเล ตลอดจนดำเนินการปล่อยเต่าทะเลลงสู่ทะเล การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ในอันที่จะรักษาพันธุ์เต่าทะเลเอาไว้ตลอดไป ตลอดจนทำการเพาะพันธุ์เต่าทะเลในบ่อเพาะพันธุ์ โดยการเลี้ยงเต่าทะเลจนเจริญเติบโต เพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์และทำการเพาะพันธุ์ขยายพันธุ์เต่าทะเลในบ่อเพาะพันธุ์ ในการดำเนินการอนุรักษ์เต่าทะเล ควรคำนึงถึงธรรมชาติและชีววิทยาของเต่าทะเลด้วย โดยเฉพาะในการนำไข่เต่ามาทำการเพาะฟัก และการปล่อยลูกเต่าในเทศกาลและสถานที่ต่าง ๆ แต่ในทางตรงข้ามในการดำเนินการลักษณ์นี้ ถ้าไข่เต่าทะเลส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้ในกิจกรรมเหล่านี้ เช่น การนำลูกเต่าทะเลไปปล่อยในแหล่งต่าง ๆ ก็จะมีโอกาสสูงจะเกิดการกระทบกระเทือนต่อประชากรเต่าทะเลในธรรมชาติ โดยหลักการแล้วควรให้ไข่เต่าทะเลประมาณ 50-70% ได้มีการฟักตัวเกิดและกลับสู่ทะเลตามธรรมชาติ แต่มีหลายแห่งชาวบ้านหรือชาวประมงท้องถิ่น ขาดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ จึงไม่สามารถปล่อยให้เต่าทะเลเพาะฟักในธรรมชาติได้ จำเป็นต้องเก็บไข่เต่ามาฟัก การอนุรักษ์เต่าทะเล จะกระทำประเทศใดประเทศหนึ่งจะได้ผลเต็มที่ จะต้องมีการร่วมมือกันในระหว่างประเทศหรืออย่างน้อยต้องมีการประสานงานกันในระดับภูมิภาค เพราะเต่าทะเลเป็นสัตว์ที่มีการโยกย้ายถิ่น แหล่งอาหาร แหล่งอาศัยที่กว้างไกล

No comments: